วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กำเนิด Kamen Rider Ryuki









คาเมนไรเดอร์ ริวคิ (ญี่ปุ่น仮面ライダー龍騎 Kamen Raidā Ryūki Masked Rider Ryuki ?) เป็นซีรีส์ภาพยนตร์ซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ลำดับที่ 12 เริ่มออกอากาศทางทีวีอาซาฮี เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 ถึง 19 มกราคม ค.ศ. 2003 ออกอากาศทั้งหมด 50 ตอนมีภาพยนตร์ตอนพิเศษอีก 1 ตอนคือ Episode Final และมีตอนพิเศษจากโทรทัศน์ในชื่อ 13 RIDERS

เนื้อเรื่องและบทสรุปของ เจ้ามังกร Kamen Rider Ryuki








คิโดะ ชินจิ ชายหนุ่มช่างภาพผู้ใสซื่อ เขาทำงานให้กับสำนักข่าว ORE Journal โดยในแต่ละวันเขามักจะทำงานล้มเหลวเนื่องด้วยอุปสรรคนานาประการจนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้บังเอิญเก็บกล่องปริศนาขึ้นมาจากคดีบุคคลหายสาบสูญคดีหนึ่ง ทำให้ชีวิตของชินจิต้องเปลี่ยนไป และเขาได้พบกับ อาคิยามะ เรน ชายหนุ่มผู้จริงจังกับชีวิต กำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ในมิเรอร์ เวิลด์ โลกกระจกที่ทุกอย่างเหมือนกับโลกที่เขาอาศัยหากแต่เพียงตัวอักษรจะตรงกับข้ามและไม่มีมนุษย์คนใดอาศัยอยู่ โดยที่มีหญิงสาวนาม คันซากิ ยูอิ ผู้ที่สามารถมองเห็นการต่อสู้ในมิเรอร์ เวิลด์ คอยดูการต่อสู้ของพวกเขา ทำให้ทั้ง3ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่สุดแสนจะคาดเดา
ชินจิที่ได้ก้าวเข้าสู่วิถีแห่งมาสค์ไรเดอร์ ไม่อาจสามารถหันหลังกลับไปได้และเมื่อรู้ว่าการต่อสู้ในมิเรอร์ เวิลด์นั้นเป็นการต่อสู้แบบBattle royal โดยผู้ที่มีชีวิตรอดเพียงหนึ่งเดียวจะสามารถขอพรในสิ่งที่ตนเองหวังเอาไว้ ยิ่งทำให้ชินจิต้องเอาชนะจากการต่อสู้ครั้งนี้พร้อมกับคำขอของเขาที่ต้องการให้โลกมีแต่สันติสุข ความสงบสุข
ขอบคุณที่มาจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B4

กำเนิดเจ้าอสูร Kamen Rider Hibiki










มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ (ญี่ปุ่น仮面ライダー響鬼(ヒビキ) Kamen Raidā Hibiki ?) เป็นภาพยนตร์ซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ลำดับที่ 15 ออกอากาศเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2005 ถึงวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2006 ออกอากาศทั้งหมด 48 ตอน และตอนพิเศษทางภาพยนตร์อีก 1 ตอนคือ มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิกับสงคราม 7 ไรเดอร์อสูร (劇場版 仮面ライダー響鬼と7人の戦鬼)

ตำนานและบทสรุปของ เจ้าอสูร Kamen Rider Hibiki




เรื่องราวของเหล่าผู้ฝึกตนในวิถีของอสูรหรือที่คนในยุคปัจจุบันมักจะรู้จักกันในชื่อของไรเดอร์ ทั้งที่มีตัวตนอยู่จริงแต่กลับมีน้อยคนนักที่จะได้เห็นตัวจริงโดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ในสมัยอดีตกาลที่มนุษย์ยังคงโง่เขลาและวาดกลัวต่อปิศาจหรือที่เรียกกันว่ามากาโม่จึงจำเป็นที่จะต้องนำหญิงสาวมาเป็นเครื่องสังเวยแก่โอโรจิ (อสูรกายขนาดยักษ์รูปร่างหน้าตาคล้ายมังกรจีนหน้าตาดุร้าย ว่ายน้ำได้รวดเร็วสามารถลอยตัวบินอยู่กลางอากาศนอกจากนี้ยังพ่นไฟออกมาจากปากได้) โดยในการสังเวยนั้นจะต้องเป็นหญิงสาวที่ปิศาจได้ตีตราสัญลักษณ์ไว้ที่กลางฝ่ามือหากถึงเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่ส่งตัวหญิงสาวคนนั้นมาเป็นเครื่องสังเวยเจ้าหล่อนก็จะเจ็บป่วยล้มตายไปในที่สุดด้วยระยะเวลาอันสั้น ส่วนการสังเวยในสมัยโบราณก็เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพและการสยบต่อปิศาจ หากปิศาจพอใจก็จะไม่มารพกวนมนุษย์นั่นเอง นักรบอสูรเดิมทีก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ฝึกตน และดำเนินชีวิตไปในวิถีของอสูรเท่านั้น จนกระทั่งมีผู้ที่สามารถบรรลุเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตนเองไปเป็นนักรบอสูรอย่างเต็มตัวด้วยวิชาการรวมสมาธิและจิตแปลงร่างโดยใช้เสียงเป็นตัวกำหนดจิตปล่อยพลังอสูร (ชึ่งต่อมาเข้าใจว่าเพื่อที่จะพกพาง่ายจึงใช้เป็นส้อมเสียงเป็นตัวกำเนิดเสียงก่อนที่จะพัฒนาไปตามรูปแบบการใช้วิชาของนักรบอสูรแขนงต่าง ๆ เช่นนักรบอสูรสายเครื่องดีดก็จะใช้สายรัดข้อมือที่ด้านในมีสายให้ดีดหรือสายเครื่องเป่าก็จะมีการใช้นกหวีดแทน) ทำให้นักรบอสูรเหล่านี้หันมาต่อสู้กับมาคาโม่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่กระนั้นเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาก็ยังคงหวาดกลัวและไม่ไว้ใจเหล่านักรบอสูรอยู่ดี มีตำนานเล่ากันต่อมาว่าบางครั้งที่นักรบอสูรไปปราบปิศาจสำเร็จจนได้รับของกำนัลซึ่งก็เป็นเพียงแค่หัวมันธรรมดานักรบอสูรได้บังเอิญหันไปสบตากับเด็กน้อยที่กำลังจ้องมองหัวมันนั้นด้วยตาเป็นประกายนักรบอสูรจึงคิดที่จะแบ่งให้ขณะที่เด็กกำลังเอื้อมมือรับนั่นเองแม่เด็กกลับร้องห้ามไม่ให้รับพร้อมบอกว่าของนั้นอสูรจับไปแล้ว ในสมัยอดีตเหล่านักรบอสูรปราบโอโรจิลงได้ก็จริงแต่ต่อมาก็มีการปรากฏตัวของป่าโคดามะ (ป่าอาถรรพ์ที่มีต้นไม้ต้นเดียวเป็นตัวกลางหากกำจัดต้นไม้ต้นนี้สำเร็จป่าโคดามะก็จะหายไปแต่น้อยคนนักที่จะหาพบ) ป่าที่เคลื่อนที่ได้ราวกับสิ่งมีชีวิตและจากนั้นไม่นานโอโรจิก็จะปรากฏตัวอีก เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้งจนเข้าใจว่าการปรากฏตัวของป่าคือสัญญาณบอกเหตุการมาของโอโรจิ จากนั้นนักรบอสูรจึงเสาะแสวงหาที่ที่เหมาะสมทำพิธีชำระผืนปฐพีด้วยวิชาการตีกลองส่งคลื่นเสียงชำระลงสู่ปฐพีโดยตรงโดยว่ากันว่าการประกอบพิธีจะต้องทำด้วยนักรบอสูรเพียงคนเดียวและในระหว่าทำพิธีจะมีโอโรจิจำนวนมากเข้ามาทำลายพิธีอีกซึ่งเป็นไปได้ว่ามักไม่ค่อยมีนักรบอสูรคนไหนรอดแต่สุดท้ายก็มีผู้ทำสำเร็จสามารถผนึกโอโรจิไม่ให้ออกมาสร้างความวุ่นวายได้อีกส่วนสถานที่ประกอบพิธีนั้นเมื่อนานเข้าผู้คนก็หลงลืมสถานที่ที่แน่นอนไปตามกาลเวลา ในสมัยโบราณมีการตั้งกลุ่มขึ้นโดยใช้ชื่อว่า ทาเคชิ สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้ก็เกิดขึ้นจากชายชื่อทาเคชิที่เป็นผู้ผึกตนในวิถีนักรบอสูรแต่ต้องเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุระหว่างฝึกตน จนทำให้นักรบอสูรผู้เป็นอาจารย์ประกาศยุติบทบาทการเป็นนักรบอสูรของตนซึ่งนั่นก็ทำให้โอซึมุน้องชายของทาเคชิเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนฆ่าทาเคชิ จากนั้นไม่นานก็เกิดสัญลักษณ์เครื่องสังเวยที่ผ่ามือของคู่หมั้นของโอซามุทำให้ต้องหาวิธีปราบโอโรจิก่อนที่จะถึงวันที่ประกอบพิธีสังเวยด้วยการรวบรวมเหล่านักรบอสูรเพื่อมาต่อกรกับโอโรจิ ซึ่งในเหล่านักรบอสูรเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีทั้งหมดหนึ่งในนักรบอสูรที่โอซุมุขอร้องให้มาช่วยนั้นมีความเกลียดชังมนุษย์เพราะแค้นที่มนุษย์รังเกลียดตนจึงคิดที่จะปั่นหัวให้พวกนักรบอสูรฆ่ากันเองจนตายจนหมดและจะจัดการกับมนุษย์ทีหลังแต่นักรบอสูรที่เป็นอาจารย์ของทาเคชิปรากฏตัวขึ้นยุติเหตุเสียก่อนจึงไม่สำเร็จ ต่อมาโอซุมุไปพบกับดาบที่สลักชื่อของพี่ชายที่เข้าใจว่าตีเอาไว้เพื่อมอบให้แก่ผู้เป็นอาจารย์แต่ยังไม่สมบูรณ์จึงได้ซ่อนเอาไว้ด้วยความเชื่อมั่นของพี่ชายที่มีต่ออาจารย์ทำให้เขาคิดว่านักรบอสูรผู้นี้ไม่ใช่คนฆ่าพี่ชายเขาอย่างแน่นอนโอซุมุจึงขอร้องให้นักรบอสูรแปลงร่างเพื่อช่วยเหลือผู้คนอีกครั้ง ต่อมาเหล่านักรบอสูรได้รวมตัวกันจนสามารถปราบโอโรจิได้ ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ และยังได้รับการไว้ใจจากคนในสมัยโบราณสืบมา ส่วนจุดประสงค์ในการตั้งกลุ่มก็เพื่อสำนึกในน้ำใจของนักรบอสูรที่คอยช่วยเหลือมนุษย์จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น อีกทั้งยังคอยช่วยเหลือเหล่านักรบอสูรในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นอาวุธ, ยานภาหนะ, ที่ฝึกวิชา, อุปกรณ์แปลงร่างมาตลอดจนกระทั่งถึงในยุคปัจจุบัน การแปลงร่างของนักรบอสูรคือการระเบิดพลังจากภายในของตัวเองในรูปแบบต่างกันออกมาห่อหุ้มร่างกายโดยสีสันและรูปร่างจะเกิดจากภาวะจิตใจของร่างกายและความสามารถเฉพาะตัวนั่นเอง ในการต่อสู้หากเกิดแผลแต่ไม่สาหัสและยังพอมีสติก็สามารถที่จะใช้พลังสมานแผลได้เองทันทีนอกจากนี้นักรบอสูรยังต้องเรียนรู้วิธีคืนร่างเฉพาะส่วน (ส่วนหัว) ด้วยเพราะในการแปลงร่างแต่ละครั้งพลังจะทำการเผาไหม้ชุดที่นักรบอสูรสวมใส่อยู่ให้มอดไหม้ไปหากไม่ศึกษาไว้แล้วในตอนคืนร่างจะอยู่ในสภาพเปลือยทันทีดังนั้นจึงเห็นนักรบอสูรส่วนใหญ่จะมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ห่างตัวก็เพราะเหตุนี้นี่เอง

กำเนิด Kamen Rider Decade








มาสค์ไรเดอร์ดีเคด (ญี่ปุ่น: 仮面ライダーディケイド Kamen Raidā Dikeido Kamen Rider Decade ?) เป็นชื่อของ ภาพยนตร์ญี่ปุ่น แนว โทคุซัทสึ ในซีรีส์ มาสค์ไรเดอร์ ประจำปี 2009 เป็นลำดับที่ 19 โดย โตเอะ คัมปะนี และ อิชิโนะโมะริ โปรดักชั่นส์ เริ่มออกอากาศเดือน 25 มกราคมค.ศ. 2009 จนถึงวันที่ 30 สิงหาคมค.ศ. 2009 โดยออกอากาศทางทีวีอาซาฮี ในช่วง ซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ โดยเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของการฉายมาสค์ไรเดอร์ยุค 2000 (ยุคเฮย์เซย์) นับตั้งแต่การออกอากาศครั้งแรกของมาสค์ไรเดอร์คูกะจนถึงมาสค์ไรเดอร์คิบะ และกลับมาออกอากาศอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2009 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 6.30 น. และสิ้นสุดออกอากาศเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 ออกอากาศทั้งหมด 31 ตอน และ ตอนพิเศษที่ฉายทางโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 3 ตอนด้วยกัน ประกอบไปด้วย โชว มาสค์ไรเดอร์เดนโอ & มาสค์ไรเดอร์ดีเคด NEO เจเนเรชั่น ศึกเรือยักษ์โอนิงาชิมะ (劇場版 超・仮面ライダー電王&ディケイド NEO ジェネレーションズ 鬼ヶ島の戦艦) มาสค์ไรเดอร์ดีเคด ออลไรเดอร์ ปะทะ ไดช็อกเกอร์ (劇場版 仮面ライダーディケイド オールライダー対大ショッカー) , มาสค์ไรเดอร์ X มาสค์ไรเดอร์ W & ดีเคด MOVIE ไทเซ็น 2010 (仮面ライダーX 仮面ライダー W&ディケイド MOVIE大戦2010)[1]
ชื่อของมาสค์ไรเดอร์ดีเคด มีอีกชื่อหนึ่งคือ MASKED RIDER DCD
ในประเทศไทยจัดจำหน่ายในรูปแบบ VCD และ DVD โดย ภาคภาพยนตร์พิเศษตอน โชว มาสค์ไรเดอร์เดนโอ & มาสค์ไรเดอร์ดีเคด NEO เจเนเรชั่น ศึกเรือยักษ์โอนิงาชิมะ เป็นลิขสิทธิ์ของ DEX , มาสค์ไรเดอร์ดีเคด ออลไรเดอร์ ปะทะ ไดช็อกเกอร์

เนื้อเรื่องและบทสรุปของ Kamen Rider Decade







คอนเซ็ปท์ของมาสค์ไรเดอร์ดีเคด เป็นการนำคอนเซ็ปท์ของมาสค์ไรเดอร์ในยุคโชวะ (คาเมนไรเดอร์ 1 - BLACK RX) มาปรับปรุงใหม่ โดยเป็นการพบกันของเหล่าไรเดอร์ยุค 2000 และร่วมมือกำจัดศัตรูที่หมายจะยึดครองโลก ซึ่งเป็นคอนเซ็ปท์การพบของเหล่าไรเดอร์ในแต่ละเรื่องนั้นเป็นแนวคิดดั้งเดิมของมาสค์ไรเดอร์ ที่ในยุค 2000 ไม่ได้มีการนำเสนอผ่านทางโทรทัศน์แต่อย่างใด ผสมกับ การต่อสู้ด้วยการ์ดเกมส์ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ของมาสค์ไรเดอร์ ที่ได้มีการนำรูปแบบการต่อสู้ด้วยการ์ดเกมส์ภายหลังจากที่ได้รับความนิยมใน มาสค์ไรเดอร์ริวคิ และ มาสค์ไรเดอร์เบลด มาแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีจุดประสงค์แอบแฝงโดยโตเอะ คัมปะนีและบริษัท บันได ได้ร่วมกันผลิตขึ้นมาพร้อมๆกับมาสค์ไรเดอร์ดีเคดคือการเปิดตัว คาเมนไรเดอร์แบทเทิล กัมบาไรด์ ซึ่งเป็นเกมส์ต่อสู้แนวอาเขตโดยใช้การ์ดที่มีแถบบาร์โคดเป็นอุปกรณ์ในเดินเครื่อง (คล้ายกับการเล่นมุชิคิง) ซึ่งจะปรากฏในมาสค์ไรเดอร์ดีเคดในทุกๆตอนที่นำเสนอ


โลกที่มีเหล่าไรเดอร์แห่งยุคเฮยเซย์ (ยุค 2000) คอยปกป้องคุ้มครองอยู่นั้น แต่เดิมได้แยกออกมาเป็นมิติคู่ขนานทั้งหมด 9 มิติ และเป็นคู่ขนานกับโลกใบหลักเสมอมา จนกระทั่งเหตุการณ์การพุ่งชนของโลกทั้ง 9 ใบ เกิดขึ้น ทำให้เส้นกั้นมิติในแต่ละมิติของโลกทั้ง 9 เกิดรอยร้าว และส่งผลให้ศัตรูของไรเดอร์ในแต่ละมิติเกิดความสับสนและอาละวาดข้ามมิติขึ้น ทำให้เกิดไรเดอร์ผู้เชื่อมมิติขึ้นมาเพื่อสร้างความสมดุลให้กับโลกทั้ง 9
ฮิคาริ นัตสึมิ หลานสาวเจ้าของร้านถ่ายรูป Hikari Studio ได้ฝันเห็นไรเดอร์ทั้งหมดในยุคเฮย์เซย์ ทำสงครามกับใครคนหนึ่ง ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ นัตสึมิ ได้เห็น ไรเดอร์ผู้สร้างสรรค์และทำลาย ผู้มีออร่าแสงสีชมพู ไรเดอร์คนนั้นได้ทำการยุติสงครามด้วยเพียงการโจมตีเพียงเล็กน้อยของเขา , นัตสึมิ รู้จักเขาได้เป็นอย่างดี และรู้ว่าเขาคือ มาสค์ไรเดอร์ ดีเคด
นัตสึมิ ที่ฝันประหลาดได้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์ และพบกับความวุ่นวายเนื่องจากผลงานของช่างภาพประจำร้านอย่างคาโดยะ สึคาสะ ชายหนุ่มนิสัยประหลาด ที่มักถ่ายภาพตามอารมณ์ของเขาแทนที่จะทำตามคำสั่งของลูกค้า ทำให้นัตสึมิต้องออกไปต่อว่าสึคาสะทันที แต่จู่ๆเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นรอบตัวนัตสึมิได้เกิดขึ้น ทำให้นัตสึมิและสึคาสะต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์อาละวาดของศัตรูของไรเดอร์ในมิติต่างๆ นั่นเป็นสิ่งเป็นเรื่องบังเอิญ หรือ การจงใจของใครบางคน สิ่งเหล่านี้มีเพียงสึคาสะและนัตสึมิ เท่านั้นที่จะหาคำตอบให้กับตนเองและคำตอบของโลกใบนี้ให้ได้

กำเนิด Kamen Rider Double








มาสค์ไรเดอร์ ดับเบิล (ญี่ปุ่น: 仮面ライダー W (ダブル) Kamen Raidā Daburu - Kamen Rider Double ?) เป็นชื่อของ ภาพยนตร์ญี่ปุ่น แนว โทคุซัทสึ ในซีรีส์ มาสค์ไรเดอร์ ประจำปี 2009 (ลำดับที่ 2) เป็นลำดับที่ 20 โดย โตเอะ คัมปะนี และ อิชิโนะโมะริ โปรดักชั่นส์ โดยออกอากาศต่อจากตอนสุดท้ายของ "มาสค์ไรเดอร์ดีเคด" ในวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2009[1] จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2010 ทางทีวีอาซาฮี ในช่วง ซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ โดยเป็นมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์เรื่องแรกที่ทางโตเอะ คัมปะนี และ อิชิโนะโมะริ โปรดักชั่นส์ ได้มีแนวคิดในการออกอากาศมาสค์ไรเดอร์ถึง 2 เรื่องติดต่อกันโดยไม่มีการระงับการสร้างภาพยนตร์แต่อย่างใด
อักษรย่อของมาสค์ไรเดอร์ดับเบิลคือ W ซึ่งเป็นคำย่อมาจากมาคำว่า Double โดยเป็นคำเฉพาะที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น
จำนวนตอนของมาสค์ไรเดอร์ดับเบิล มีทั้ง 49 ตอน , ตอนพิเศษทางโรงภาพยนตร์ อีก 4 ตอน ได้แก่ มาสค์ไรเดอร์ดีเคด ออลไรเดอร์ส ปะทะ ไดซ็อกเกอร์ (仮面ライダーディケイド オールライダー対大ショッカー) ,มาสค์ไรเดอร์ x มาสค์ไรเดอร์ W & ดีเคด MOVIE ไทเซน 2010 (仮面ライダー×仮面ライダー W(ダブル)&ディケイド MOVIE大戦2010), มาสค์ไรเดอร์ดับเบิล FOREVER AtoZ / ไกอาเมมโมรี่แห่งชะตากรรม (仮面ライダーW(ダブル) FOREVER AtoZ/運命のガイアメモリ) , มาสค์ไรเดอร์ x มาสค์ไรเดอร์ โอซ์ & ดับเบิล FEAT.สคัล MOVIE ไทเซน CORE (仮面ライダー×仮面ライダーオーズ&ダブル feat.スカル MOVIE大戦CORE) , ตอนพิเศษทางดีวีดี อีก 2 ตอน ได้แก่ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิลRETURNS : มาสค์ไรเดอร์เอเทอร์นัล และ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิลRETURNS : มาสค์ไรเดอร์แอ็กเซล
ขอบคุณที่มาจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5




เนื้อเรื่องและบทสรุปของ Kamen Rider double








คอนเซ็ปต์ของมาสค์ไรเดอร์ดับเบิล คือ มาสค์ไรเดอร์ที่เกิดจากการรวมร่างของชายหนุ่มผู้มีจิตใจแห่งคุณธรรมทั้ง 2 คน ก่อให้เกิดมาสค์ไรเดอร์รูปแบบใหม่ขึ้นมา ซึ่งแนวคิดฮีโร่รวมร่างนั้นมีความคล้ายคลึงกับบารอมวัน (ฮีโร่ปี 1972 จากค่ายโตเอะ คัมปะนี) โดยใช้รูปแบบของฮีโร่รวมร่างที่มีพลังมิตรภาพระหว่างเด็กหนุ่ม ,อุลตร้าแมน เอซ (ฮีโร่จากค่ายซึบุราญ่า) โดยใช้รูปแบบของอุปกรณ์แปลงร่างที่สามารถพกพาได้และไม่สะดุดตา และไฟร์สตอร์ม (ฮีโร่จากค่าย DC คอมมิค) โดยใช้รูปแบบของผู้แปลงร่างที่มีอายุต่างกันและมีอาชีพที่ต่างกันแต่ต้องร่วมปกป้องโลกร่วมกัน ส่วนลักษณะร่างกายของมาสค์ไรเดอร์ดับเบิล ที่แบ่งสีออกเป็น 2 สีโดยแบ่งเป็นข้างละสี มีแนวคิดคล้ายคลึงกับ คิไดเดอร์ (ฮีโร่จากค่ายโตเอะ คัมปะนี) และ เมทัลเดอร์ (ฮีโร่จากค่ายโตเอะ คัมปะนี) ทางด้านลักษณะร่างกายที่มีรูปแบบเพรียวและสมส่วนนั้น ได้แนวคิดมาจาก คาเมนไรเดอร์ BLACK และ คาเมนไรเดอร์ ZO ผสมเข้าไว้ด้วยกัน


ฟูโตะ เมืองแห่งหนึ่งญี่ปุ่น ได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองแห่งสายลม เนื่องด้วยกระแสลมที่พัดผ่านตลอดปีและกังหันลมที่มีให้เห็นรอบๆเมือง ที่เมืองฟูโตะ เกิดคดีอาชญากรรมต่างๆขึ้นด้วยฝีมือของโดพันท์ สิ่งมีชีวิตประหลาดที่เกิดจาการสนองตัณหาของมนุษย์ด้วยการใช้ไกอาเมมโมรี่ซึ่งเบื้องหลังของโดพันท์คือครอบครัวตระกูลโซโนซาคิ กลุ่มผู้มีอิทธิพลมืดในเมืองฟูโตะ สิ่งที่จะสามารถต่อกรกับโดพันท์และพร้อมที่จะกระชากหน้ากากตระกูลโซโนซาคิ มีเพียง ฮิดาริ โชทาโร่ นักสืบ Hardboiled อันเลื่องชื่อ และ ฟิลิป (โซโนซาคิ ไรโตะ) ชายหนุ่มปริศนาผู้มีมันสมองราวกับห้องสมุด โดยทั้ง 2 คือ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิล มาสค์ไรเดอร์ที่เกิดจากการรวมจิตวิญาณของทั้ง 2 เข้าไว้ด้วยกัน
มาสค์ไรเดอร์ดับเบิล ที่ทำหน้าที่สืบสวนและคอยปกป้องความสงบสุขของเมืองฟูโตะจากภัยร้ายของโดพันท์ โดยใช้ไกอาเมมโมรี่ เข้าต่อกรกับโดพันท์เพื่อทวงคืนสิ่งที่สูญหายให้กลับมาดังเดิม
ขบอคุณที่มากจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5


กำเนิด Kamen Rider OOO








มาสค์ไรเดอร์โอส (ญี่ปุ่น仮面ライダーOOO (オーズ) Kamen Raidā Ozu ?) เป็นชื่อของ ภาพยนตร์ญี่ปุ่น แนว โทคุซัทสึ ในซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ ประจำปี 2010 เป็นลำดับที่ 21 ผลิตโดย โตเอะ คัมปะนี และ อิชิโนะโมะริ โปรดักชั่นส์ โดยออกอากาศต่อจากตอนสุดท้ายของ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ล ในวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2010 ถึงวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ทางทีวีอาซาฮี ในช่วง ซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ มีตอนพิเศษ 4 ตอน คือ มาสค์ไรเดอร์ x มาสค์ไรเดอร์ โอส & ดับเบิล FEAT.สคัล MOVIE ไทเซน CORE (仮面ライダー×仮面ライダーオーズ&ダブル feat.スカル MOVIE大戦CORE) , โอส . เดนโอ . ออลไรเดอร์ เล็ท'ส โก มาสค์ไรเดอร์ (オーズ・電王・オールライダー レッツゴー仮面ライダー) , มาสค์ไรเดอร์โอส WONDERFUL โชกุน และคอร์เมดัลทั้ง 21 (劇場版 仮面ライダーオーズ WONDERFUL 将軍と21のコアメダル) และ มาสค์ไรเดอร์โอส x มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ MOVIE ไทเซ็น ขอบคุณที่มาจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%AA

เนื้อเรื่องบทสรุปของ Kamen Rider OOO











ฮิโนะ เอย์จิ ชายหนุ่มที่มีความฝันที่จะให้โลกสงบสุข เขาไม่มีทั้งงานและครอบครัว เมื่อมอนสเตอร์ใน 800 ปีก่อนที่เรียกว่า Greeed ตื่นจากการผนึก ได้เข้าโจมตีมนุษย์เพื่อรวบรวมความโลภของมนุษย์และชิ้นส่วนของร่างกายที่หายไป Ankh กรีดแห่งสัตว์ปีก ได้ให้เข็มขัดและเหรียญสามเหรียญแก่เอย์จิเพื่อให้เขาสามารถกลายเป็น Kamen Rider OOO เข้าต่อสู้กับเหล่า Greeed,บริษัท Kogami มูลนิธิลึกลับที่เริ่มให้ความช่วยเหลือแก่เอย์จิในการต่อสู้ของเขากับ Greeed แต่แรงจูงใจที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่ชัดเจน, เอย์จิได้เข้าต่อสู้และเริ่มที่จะตระหนักถึงคำว่า"การมีชีวิต"

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กำเนิด Kamen Rider Wizard



มาสค์ไรเดอร์วิซเซิร์ด (ญี่ปุ่น仮面ライダーウィザード Kamen Raidā Wizard) เป็นชื่อของภาพยนตร์ญี่ปุ่นแนวโทคุซัทสึ ในซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ ประจำปี 2012 เป็นลำดับที่ 23 ผลิตโดย โตเอะ คัมปะนี และ อิชิโนะโมะริ โปรดักชั่นส์ โดยออกอากาศต่อจาก มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ ในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 2012 จนถึงวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2013 ทางทีวีอาซาฮี ในช่วง ซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์
                                                         ขอบคุณที่มากจาก    https://www.wikipedia.org/